Risk/Reward Ratio คืออะไร?

หลายๆคนคงเคยสงสัยกันว่าเวลามีเทรดเดอร์พูดถึงคำว่า Risk, Reward นั้น หมายถึงอะไร บางคนอาจเข้าใจว่าคือการตั้งจุดขาดทุนที่รับได้ และจุดทำกำไรที่เหมาะสม แต่ค่าที่เหมาะสมนั้นคือเท่าไหร่?

หัวข้อในครั้งนี้ผมจะขอพาไปรู้จักกับ Risk/Reward ratio (ต่อไปนี้ขอใช้ตัวย่อว่า RR) เพื่อที่จะให้นักลงทุนทุกท่านได้รู้วิธีการหาและนำมาใช้ได้กันแบบเบื้องต้นดังต่อไปนี้ครับ

Risk/Reward Ratio คือ อัตราส่วนที่ใช้สำหรับการเปรียบเทียบผลตอบแทนการลงทุนด้วยการจำกัดความเสี่ยงและผลตอบแทนที่เรากำหนดไว้แล้ว โดยเกิดจากการทดลองและบันทึกผลการเทรดย้อนหลัง หรือทำการทดลองหาค่าที่เหมาะสมที่เหมาะกับตัวเราเองได้

Reward = กำไร, ระยะ

Risk = การขาดทุน, เหตุการณ์ไม่เป็นไปอย่างที่คิด

การกำหนด RR เช่น การเทรด Future Tfex SET50 เราตั้งใจว่าจะ Stop loss เมื่อติดลบ -10 จุด(Risk) และจะขายทำกำไรเมื่อ +20 จุด(Reward)

คิดได้ดังนี้ -10,-10,+20 เท่ากับ 1 ส่วน 3 หรือ Win rate = 33% ซึ่ง Win rate อาจจะน้อย แต่หากเทรดได้ถูกทาง ก็จะทำให้มีกำไรกลับมา Cover ส่วนที่ขาดทุนหรือเพิ่มกำไรให้เราได้อย่างต่อเนื่อง

หรือ Risk = -10 / Reward = +5,+5 จะเท่ากับ -10, +5, +5 = 2 ส่วน 3

คือ 2 ใน 3 ที่เราต้องเทรดถูกทาง โอกาสตรงนี้เรียกว่า Win rate ! ด้วยระบบนี้ถ้าหากเราเทรดผิด 2 ครั้ง เราต้องเทรดถูก 4 ไม้เพื่อแก้พอร์ตคืน ระบบนี้ทำให้เราต้องการ Win rate ถึง 66%

ถ้าวาง Reward ต่ำ ระบบจะต้องการความแม่นยำที่สูงขึ้นตามมา

และแบบที่ 3

Risk = -10 / Reward = +10 ระบบนี้จะให้อัตราส่วน 1:1 หรือ 50% ไม่ว่าจะเข้าด้วยสัญญาณอะไรการที่ตั้ง RR = 1:1 จึงหมายถึงมีโอกาส 50/50 ที่ราคาจะแกว่งโดน RR ของเรา ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ในสัดส่วนที่เท่ากันนั่นเอง

โดยเราต้องวาง RR มาหักลบกันให้เป็น 0 เพื่อให้สามารถวัดค่าออกมาเป็นอัตราส่วนได้แบบง่าย ๆ

หรือพูดง่าย ๆ คือ ถ้านักลงทุนมีสัดส่วน RR ที่เหมาะสมกับตัวเอง ทั้งด้านกลยุทธ์การเข้าซื้อ จุดเข้าจุดออก บวกกับ RR ที่มาจากความเข้าใจระบบของตัวเอง ก็จะให้ผลตอบแทนที่ดีขึ้นตามไปด้วย ซึ่งสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ จึงควรหาระบบที่ให้ Reward มากกว่า Risk แล้วเหมาะกับการเทรดของตัวเองให้ได้ก่อนเพื่อฝึกวินัยและการทดสอบแผนแบบ Forward test ไปด้วยนั่นเอง

ทำไมเราถึงควรมี RR ของตัวเอง?

เนื่องจากการเป็นเทรดเดอร์, นักทำระบบเทรด หรือการทำ Quant สิ่งหนึ่งที่ต้องใช้ในการคำนวณ คืออัตราส่วน RR ที่เราต้องทราบเพื่อนำไปใช้กับโมเดลการคำนวณกลยุทธ์การเทรดอื่น ๆ ได้ เช่น Kelly Formula, การคำนวณ Risk per trade หรือการนำค่า RR ไปใช้ในการ Scalping ให้กับระบบ เพราะเมื่อเรารู้จักธรรมชาติของสินค้าที่เราเทรดแล้ว จะทำให้เราทราบถึงการเคลื่อนไหวของตลาด % การเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงเวลา และนำมาหาความสัมพันธ์กับ RR เพื่อให้การเทรดมีประสิทธิภาพกับสินค้าประเภทนั้น ๆ หรือส่งผลต่อตัวเทรดเดอร์ที่จะมีกลยุทธ์การเข้าออกที่ชัดเจนมากขึ้น และจะทำให้เราลบ Bias สินค้านั้น ๆ ลงได้ โดยสิ่งที่เราสนใจจะมุ่งเน้นไปที่ RR ของเรา ถึงแม้ตลาดจะให้ผลตอบแทนสูงกว่า หรือลงไปต่ำกว่าที่เรากำหนด แต่หากเราวิ่งไปตามอารมณ์ตลาด อาจทำให้เราหลุดแผน และเชื่อมั่นใน Direction เกินไป จนสุดท้ายทำให้ความโลภหรืออารมณ์มาก้าวข้ามระบบที่เราสร้างขึ้นมา จนอาจพังไปได้ในที่สุด เพราะสุดท้ายแล้ว คนที่ชนะบนโต๊ะโป๊กเกอร์ ไม่ใช่คนที่ได้ทุกตา หรือได้เงินก้อนใหญ่จาก Pot ตลอด แต่ผู้ชนะ คือผู้ที่อยู่บนโต๊ะได้เป็นคนสุดท้ายนั่นเอง